วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

มงกุฎทูตสองผู้สถาปนาที่อายุน้อยที่สุดในโลก


เมื่อกล่าวถึง  แอมเวย์
 
ก็อดไม่ได้ที่จะแนะนำหนังสือน่าอ่านให้เพื่อนๆ 
ที่ทำธุรกิจเครือข่าย  ได้ศึกษาชีวิต
ของผู้ประสบความสำเร็จ
ในธุรกิจเครือข่าย  บนเส้นทางที่เรียกว่า
มีคนทำสำเร็จเพียง 1%  มาแบ่งปันกันครับ






เป็นประวัติของ  คุณจินตนา  พรจะเด็ด
มงกุฎทูตสองผู้สถาปนารหัสแรก และ รหัสเดียวในเมืองไทย
เป็นมงกุฎทูตสองผู้สถาปนาที่อายุน้อยที่สุดในโลก


 


คุณจินตนา  เขียนหนังสือเล่มนี้  เพื่อเล่าเรื่องราว
ตั้งแต่คุณจินตนาเริ่มรู้จักกับ  แอมเวย์  จนประสบความสำเร็จ
ซึ่งเป็นการเล่าเรื่อง  ที่อ่านสนุก  และ น่าติดตาม
จนไม่อยากวาง

เพื่อนๆ  ที่ทำธุรกิจเครือข่าย  ควรหาซื้อมาอ่าน
อย่างน้อย  เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
และกำลังใจให้เพื่อนๆ 
จากคนที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว...แบบตัวจริงๆ



ส่วนหนังสือเล่มที่สอง

เรื่อง FCA สอนแอมเวย์   
ภาคสนาม เล่ม 1 และ 2

ซึ่งเป็นเรื่องที่คุณจินตนา  เขียนเพื่อถ่ายทอด
วิธีการทำธุรกิจเครือข่าย  โดยการเล่าแบบสบายๆ
แต่มีเนื้อหาสาระ  แบบที่เรียกว่า
นักธุรกิจเครือข่ายทั้งหลาย
สมควรนำเอาไปใช้ในธุรกิจของตัวเองได้เป็นอย่างดี




เนื่องจาก  ทางแอมเวย์ 
ไม่สนับสนุน  เรื่องการทำตลาดบนโลกออนไลน์
เพราะผลิตภัณฑ์ของแอมเวย์
ต้องการให้มีการสาธิต  อธิบาย  และแนะนำอย่างจริงจัง
ในตัวผลิตภัณฑ์


ดังนั้น  ผมจึงได้แค่บอกเล่าเรื่องความน่าประทับใจ
ในตัวธุรกิจ  ความเป็นไปในแอมเวย์
เท่าที่ผมได้พบมาเท่านั้น  โดยไม่แนะนำถึงผลิตภัณฑ์
หรือคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์  ให้เพื่อนๆ ฟังได้


ดังนั้น  ถ้าเพื่อนๆ สนใจในเรื่องราวของแอมเวย์
กรุณาลองหาหนังสือมาอ่านเอาเอง


ถ้าสนใจในผลิตภัณฑ์  ก็สามารถติดต่อกับนักธุรกิจ
ใกล้บ้านท่าน  หรือ  โทรหาผมก็ได้ครับ



ถ้าเพื่อนๆ  ไม่ได้ลองใช้
เพื่อนๆ  ก็ไม่ทราบว่ามันดีอย่างไร
เหมือนผมไปทานอาหารร้านนาย ก.
แล้วบอกว่าอร่อยมาก   ชวนให้เพื่อนๆ ไปทาน
เพื่อนๆ  ก็รู้แค่ว่าร้านนี้  อร่อย  แต่ไม่ไปทาน

มันก็ไม่ได้รสชาด  ความอร่อยที่แท้จริง


สิบปากว่า  ไม่เท่าตาเห็น
สิบตาเห็น  ไม่เท่ามือคลำ
ไม่ลอง  ก็  ไม่รู้   ใช่ไหมครับ!!!

จากใจ

อดิสัย  คล้ายสุวรรณ
ผู้ลองใช้  แล้วถูกใจ

วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2552

แอมเวย์ สินค้าคุณภาพ คุ้มราคา



คุณรู้จักยาสีฟัน Glister ไหม?




ยาสีฟันที่เราใช้ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เวลาเราใช้ จะต้องบีบใส่แปรงตามแนวยาวให้เต็มแปรง จึงจะมีฟองพอที่จะแปรงในหนึ่งครั้ง เพราะผสมแป้งเยอะๆ ความเข้มข้นน้อย จึงใช้หมดอย่างรวดเร็ว




แต่ ยาสีฟัน Glister เป็น ยาสีฟันชนิดเข้มข้น เวลาใช้ บีบขวางแปรง ปริมาณเท่าเมล็ดข้าวโพด แค่นี้ก็แปรงจนสะอาดหมดจด ข้อสำคัญ มีตัวยาขจัดกลิ่นปาก กลิ่นกาแฟ คราบบุหรี่ และรักษาเหงือกฟันให้แข็งแรงด้วย รสเย็น หอม เวลาแปรงเสร็จแล้ว จะรู้สึกสะอาด สดชื่นจนรู้สึกได้ ตอนเช้าไม่มีกลิ่นปากมาทำให้รำคาญใจ
     

     หลอดหนึ่ง ใช้ได้ 8 เดือน/ คน ราคา 245 บาท ตกครั้งละ 0.51 บาท หรือเดือนละ 30.63 บาท

ราคาสมาชิก 196 บาท ตกครั้งละ 0.41 บาท หรือเดือนละ 24.50 บาท
 คุณล่ะ ใช้ยาสีฟันตกเดือนล่ะเท่าไหร่?


คุณคิดว่าคุ้มไหม ราคา กับ คุณภาพ ของสินค้า

ดูโฆษณาประกอบ

Glister Thailand – Clean 45 sec.flv


สินค้าที่มีคุณภาพแบบนี้อีกมากใน แอมเวย์ ค่าสมาชิกโดยไม่ทำธุรกิจ 100 บาท ได้รับส่วนลด 25%

แต่ถ้าสนใจทำธุรกิจกับ แอมเวย์ ก็สมัครเพียง 900 บาท

โดย 450 บาทแรก เป็นค่าเอกสารและ catalog

ส่วนอีก 450 บาท เป็นค่าประกันชีวิต 100,000 บาท


การสมัครทั้งสองอย่าง ต้องสมัครผ่านนักธุรกิจ แอมเวย์ เท่านั้น เพราะบริษัทฯ สัญญาว่า จะไม่มาขายแข่งกับนักธุรกิจแอมเวย์ ทั้งในระบบออฟไลน์ หรือ ออนไลน์ ก็ตาม แต่คุณสมารถดูสินค้า หรือ สั่งสินค้าทางอินเตอร์เน็ตได้เลย




สนใจในผลิตภัณฑ์ หรือ ธุรกิจ ติดต่อ

คุณอดิสัย คล้ายสุวรรณ 089-770-4539                    

    a_disai@hotmail.com

หรือ

คุณสมใจ คล้ายสุวรรณ 089-491-0038

            นักธุรกิจแอมเวย์

 ใช้ดี  จึงบอกต่อ

เราใช้มาแล้ว


รายละเอียดเพิ่มเติม คลิ๊ก

https://www.amwayshopping.com/

 

 


          

ธุรกิจเครือข่าย…ขายอะไร?

ทฤษฎีของมาสโลว์ บอกว่า

“มนุษย์เรามีความต้องการไม่มีที่สิ้นสุด

และจัดลำดับความสำคัญของตัวเองเป็นขั้นๆ”


กลุ่มที่ก้าวเข้าสู่อาชีพนักธุรกิจอิสระได้ไม่นาน
จะสะท้อนถึงประเด็น “ผลตอบแทน” เป็นหลัก
สอดคล้องกับ Physiological Needs
ซึ่งเป็นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ทุกคน
ผสมผสานกับความต้องการความมั่นคงในหน้าที่การงาน
ความปลอดภัย และ ทรัพย์สิน




ขณะที่กลุ่มสูงๆขึ้นไปความต้องการดังกล่าวจะก้าวไปอีกสเต็ปหนึ่ง
ในระดับบริหารที่สูงขึ้น กรอบการดำเนินธุรกิจจะสะท้อนถึงความต้องการความมั่นคงในอาชีพ มองถึงการสร้างเครือข่ายธุรกิจของตนเองให้แข็งแรงยิ่งขึ้น และหวังว่าสิ่งนั้นจะสร้างความมั่นคงในหน้าที่การงาน




ขณะที่นักธุรกิจระดับสูงขึ้นไปอีก นอกจากจะต้องการรายได้ที่มั่นคง เวลาเดียวกันจะมีความต้องการยอมรับจากเครือข่ายนักธุรกิจอิสระ ทั้งสายงานตัวเองและนอกสายงานควบคู่กันไป



ส่วนที่มีระดับสูงกว่า จะมีความต้องการทั้งความยอมรับจากมวลนักธุรกิจอิสระด้วยกัน เวลาเดียวกันจะมองถึง เกียรติยศ ชื่อเสียง และสถานะทางสังคม รวมถึง ความต้องการสำเร็จขั้นสูงสุดในชีวิต




โจทย์ของ ธุรกิจเครือข่าย คือ ทำอย่างไรจึงจะเกิดแรงบันดาลใจ และ สร้างแรงจูงใจ ให้ก้าวสูงขึ้นไป เรื่อยๆ




ความเข้าใจในวิถีชีวิตของผู้คน นำไปสู่ปรัชญาธุรกิจเครือข่าย ตั้งแต่วินาทีแรกของการก่อกำเนิดของธุรกิจนี้ นั่นคือ




“อิสรภาพ ครอบครัว ความหวัง และ รางวัล”



สอดคล้องกับความต้องการลึกๆในจิตใจของผู้คนกับ
“แผนการตลาด แผนการจ่ายผลตอบแทน”




ทำน้อยได้น้อย ทำมากได้มาก ยิ่งประสบความสำเร็จเท่าไหร่
ผลตอบแทนก็ยิ่งมาก และ ได้รับการยกย่องจากผู้คนรอบข้างเป็นเงาตามตัว




ธุรกิจนี้เจริญเติบโตได้เพราะศักยภาพของนักธุรกิจอิสระโดยแท้ ทั้งยังเปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า



ธุรกิจเครือข่ายเหมือนนก ต้องมีปีกสองข้าง ถึงจะยกตัวเองขึ้นฟ้าได้
“ไม่มีนักธุรกิจอิสระ บริษัทก็อยู่ไม่ได้ นกตัวนี้ก็คงบินไม่ได้”


แล้วอะไรที่เป็นเหมือนลมใต้ปีกที่ยกตัวนกนี้ให้บินสูงขึ้น สูงขึ้น
“สิ่งนั้นคือ การบริหารการคาดหวัง”



จากใจ



อดิสัย คล้ายสุวรรณ

หนังสืออ้างอิง
บันทึก 20 ปี ปรากฏการณ์แห่งความสำเร็จ
ทางธุรกิจที่น่าศึกษา
โดย พัฒนพันธ์ วงษ์พันธ์
สมปรารถนา คล้ายวิเชียร

วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ทำธุรกิจเครือข่าย แล้วได้อะไร?

มีผู้อ่านเคยถามผมในเรื่องธุรกิจเครือข่ายที่ผมทำว่า ทำธุรกิจอะไร
เพราะผมไม่เคยเน้นว่า ธุรกิจที่ผมทำคืออะไร
ส่วนใหญ่จะเล่าถึงประสบการณ์ที่ได้พบเจอ แล้วมีความรู้สึกประทับใจ
จึงนำมาถ่ายทอดให้ฟังอีกที เพราะผมไม่เน้นว่า ธุรกิจแต่ละอย่างที่ผมพบ
ผมจะอยู่กับมันจนตราบฟ้าดินสลาย


ธุรกิจออนไลน์ที่เราพบกันทุกวันนี้ ส่วนใหญ่จะเน้นไปที
วิธีการหาเงินให้รวดเร็ว หรือวิธีการสร้างแรงดึงดูดเพื่อให้ผู้คนสนใจ
ร่วมสมัครทำธุรกิจ แล้วไม่สนใจว่า ดาวน์ไลน์ที่หามาได้นั้น
จะประสบความสำเร็จตามที่โฆษณาเอาไว้หรือไม่

เมื่อธุรกิจเดินทางไปถึงจุดหนึ่ง ผู้บริหารองค์กรก็รู้สึกเหมือนว่า ธุรกิจนี้ถึงจุดอิ่มตัว
จึงเริ่มไปสร้างธุรกิจใหม่ แต่ลืมไปว่า ยังมีผู้คนหลั่งไหลเข้าร่วมธุรกิจ
ที่ตนสร้างขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เพราะมันเป็น ธุรกิจเครือข่าย

ธุรกิจเครือข่าย คือ การสร้างทีมงานตัวต่อตัวโดยการบอกต่อ
มี Upline ที่มีความสามารถและรับผิดชอบ ในการนำ Downline
ที่มีแววและรักในองค์กร เป็นพี่เลี้ยงคอยแนะนำอยู่ระยะหนึ่ง
เหมือนเด็กหัดเดิน มีพี่เลี้ยงคอยดูแล จนเดินและวิ่งเป็น
จึงจะปล่อยให้ Downline ในสายงานตัวเองเติบโตขึ้น
เป็นเครือข่ายขนาดมหึมา จนจินตนาการไม่ได้

ธุรกิจเครือข่ายที่จะสร้างคนให้ประสบความสำเร็จได้นั้น จะต้องมีองค์ประกอบสำคัญ คือ
1. สินค้าต้องมีคุณภาพ ใช้แล้วบอกต่อได้ ไม่อายใคร
2. บุคลากรต้องมีคุณภาพ ซึ่งเป็นผลจากการปักใจเชื่อว่าสินค้าและบริษัทฯ มีคุณภาพ
3. บริษัทฯ ต้องมีคุณภาพ สร้างความเชื่อถือในสินค้า บริการ และค่าตอบแทนอย่างยั่งยืน
4. มีการสืบต่อ ถ่ายทอดประสบการณ์จากรุ่น ต่อ รุ่น เป็นวัฒนธรรมองค์กร เป็นประเพณี เป็นพี่ เป็นน้อง เป็นเหมือนญาติสนิท พร้อมช่วยเหลือและให้คำปรึกษาได้ตลอดเวลา แม้ Upline ของตัวเองไม่อยู่ ก็ยังมีรุ่นพี่ที่อาวุโสกว่า เป็นตัวแทน

ธุรกิจเครือข่ายที่ดี เหมือนการปลูกต้นไม้ใหญ่ต้องหยั่งรากลึก
ใช้เวลาในการเติบโต เพื่อกินผล
ไม่เหมือนการปลูกถั่วงอก ซึ่งได้ผลเร็ว แต่ไม่ยั่งยืน
ไม่มีผลไว้กินในภายภาคหน้า


ทำธุรกิจเครือข่าย แล้วได้อะไร?

องค์กรธุรกิจเครือข่าย ที่ถ่ายทอดลักษณะธุรกิจมาอย่างยาวนาน
มีบุคลากรระดับสูงที่ผ่านการต่อสู้สู่ความสำเร็จมามากมาย
จึงเกิดความรักองค์กรของตัวเอง และอยากเห็นคนรุ่นใหม่
ที่เห็นโอกาสอย่างที่พวกเขาทำสำเร็จ ได้ไต่เต้าขึ้นมาอย่างพวกเขาบ้าง
อัพไลน์จึงทุ่มเทแรงกายแรงใจ เพื่อสร้างบุคลากรชุดแล้วชุดเล่า
อย่างไม่เห็นแก่เหน็ดแก่เหนื่อย



แม้น้อยคนนัก ที่จะประสบผลสำเร็จในธุรกิจนี้
แต่ผู้ที่ทำสำเร็จแล้ว จึงสมควรแก่การยกย่อง
สมกับความพากเพียรบากบั่น และเป็นตัวอย่างที่ดีแก่คนรุ่นหลังต่อไป


จากใจ

อดิสัย คล้ายสุวรรณ

089-770-4539

วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ตัวอย่างธุรกิจขายตรงแบบดั่งเดิม

วันนี้ (26 ตุลาคม 2552) ได้มีโอกาสเข้าฟังประชุม
แผนธุรกิจของ บริษัทเครือข่าย แห่งหนึ่ง



บริษัทขายตรงของเมืองไทย ยังคงมีมนต์ขลัง
ที่ดึงดูดนักธุรกิจผู้มีความฝันที่จะสร้างอิสรภาพทางการเงินและเวลา
เข้ามาร่วมเป็นหุ้นส่วนอยู่เสมอ แม้ว่าบางคนจะไม่สามารถก้าวไปถึงจุดที่ฝันได้
เนื่องจากติดภารกิจ หรือ ท้อแท้ไปก่อน แต่ก็ยังสร้างบุคลากรระดับบริหาร
ซึ่งถือเป็นสุดยอดความใฝ่ฝันของทุกคน
พร้อมที่จะกล่าวขานเล่าเป็นตำนานสืบต่อกันมา



เริ่มจากธุรกิจขายตรงเล็กๆ เมื่อ 22 ปีที่แล้ว จากนักธุรกิจชาวมาเลเซียคนหนึ่ง
มาร่วมงานกับคนไทย ซึ่งรุ่นแรกๆ ถือเอาความฝันอันยิ่งใหญ่เป็นเป้าหมายรางวัลชีวิต
บุกเบิกขาย แฟ๊บ สบู่ ยาสีฟัน น้ำยาล้างจาน ผงซักผ้า
กว่าได้ได้ขึ้นตำแหน่ง ต้องอาศัยความอดทนอย่างยิ่ง
สมัยก่อนศูนย์มีอยู่ในกรุงเทพฯที่เดียว มีคนทำงานอยู่ไม่กี่คน
นักธุรกิจต้องนั่งรถเมล์จากต่างจังหวัด หอบของพะรุ่งพะรัง
ไปจำหน่ายในญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงที่บ้าน โดยอาศัยทฤษฏี
“ใช้ดี บอกต่อ ไม่พอใจ คืนได้”


นักธุรกิจรุ่นแรกๆ เล่าให้ฟังถึงความภูมิใจ
ที่เขาได้เห็นโอกาสตั้งแต่เมื่อ 10-20 ปีที่แล้ว
ต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรค์ ทั้งคำปฏิเสธ ด่าทอ ดูถูก จนถึงปัจจุบัน
พวกเขาขึ้นระดับบริหาร ซึ่งมีรายได้หลายล้านบาทต่อเดือน
รวมถึงโบนัสการท่องเที่ยวฟรีทั่วโลก สมกับที่พวกเขาตั้งเป้าหมายเอาไว้
พวกเขาเลิกทำเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะจะมีค่าลิขสิทธิ์ที่ บริษัทมอบไว้ให้
จากการปั้นดินให้เป็นดาว ทีมแล้วทีมเล่า
ซึ่งสามารถมอบให้ลูกหลานเมื่อเขาเหล่านั้น จากโลกนี้ไปแล้ว




นักธุรกิจรุ่นใหม่ เข้าไปฟังนักธุรกิจรุ่นพี่
ถ่ายทอดประสบการณ์การสร้างเครือข่าย การขาย
การสาธิตสินค้า การถ่ายทอดวัฒนธรรมองค์กร
จนคุ้นเคยสนิทสนมเหมือนพี่น้องกัน ให้กำลังใจและแก้ไขปัญหาร่วมกัน

วันนี้ ถือเป็นเกียรติของผมมาก ที่ได้มีโอกาสเข้าฟังประสบการณ์และเทคนิคดีๆ
ซึ่งผมก็นำมาถ่ายทอดให้ท่านฟังอีกทีหนึ่ง
ถ้าท่านใดสนใจอยากเข้าไปฟังแผนการตลาด
และรู้จักกับผู้ที่ทำธุรกิจนี้จนสำเร็จตัวจริง

อย่างน้อย การสร้างเป้าหมายและเรียนรู้
จากผู้ที่ทำสำเร็จแล้ว
และ สร้างพลังในตัวเราให้ลุกโชนตลอดเวลาครับ

จากใจ

อดิสัย คล้ายสุวรรณ
089-770-4539

วันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2552

MLM…แบบเน้นคุณค่า


ธุรกิจเครือข่ายแบบเน้นคุณค่า


 ท่านผู้อ่านหลายท่าน  คงมี ธุรกิจออนไลน์ กันบ้างแล้ว  หรือบางท่านกำลังมองหาธุรกิจออนไลน์ ที่ถูกใจท่านอยู่แต่ยังไม่ทราบจะเลือกอย่างไร ดี

วันนี้  ผมขอเสนอแนวคิด  การสร้างธุรกิจเครือข่ายออนไลน์  แบบเน้นคุณค่า เพื่อเป็นแนวทางพิจารณาเลือกธุรกิจเครือข่ายกัน

ธุรกิจเครือข่ายแบบเน้นคุณค่า  หมายถึง  การทำธุรกิจที่สามารถนำสินค้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเองได้จริง  สามารถสร้างรายได้อย่างยาวนาน  และขยายเครือข่ายโดยไม่ต้องใช้แรงมากมาย  เนื่องจากสินค้าชนิดนั้นมีแบนด์ของธุรกิจที่แข็งแกร่ง  การเงินของบริษัทและความเชื่อถือสูง

นอกจากนี้  ยังต้องมีการส่งเสริมให้สมาชิกเรียนรู้ในการทำการตลาด แบบทำซ้ำได้ง่าย  ไม่ยุ่งยาก  หรือ ให้สมาชิกต้องไปสร้างเว็บใหม่  เพื่อขยายธุรกิจด้วยตัวเอง  มีการโฆษณาของบริษัทเพื่อนำตลาด  และให้เป็นที่ยอมรับแก่ประชาชนทั่วไป  อีกทั้งการันตีคุณภาพ  และราคา  ว่าไม่ด้อยไปกว่าเจ้าอื่นที่มีสินค้าคล้ายคลึงกัน



การทำธุรกิจเครือข่ายแบบเน้นคุณค่า  เหมือนการซื้อหุ้นแบบเน้นคุณค่า  คือ ท่านต้องสรรหาธุรกิจที่มีความเหมาะสมที่ท่านจะถือไว้หรือร่วมธุรกิจได้อย่างยาวนาน  มีผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ  เป็นธุรกิจชั้นนำที่ยากจะมีคนอื่นมาแทนที่ได้  ข้อสำคัญเมื่อท่านร่วมธุรกิจแล้ว  สามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจ  ไม่กังวลว่าธุรกิจท่านจะไปไม่รอด  หรือ เกิดปัญหาสภาพคล่องจากค่ารักษายอดต่อเดือนในกรณีที่ท่านหาสมาชิกในเดือนนั้นไมได้

ธุรกิจเครือข่ายในปัจจุบัน  มักจะมุ่งเน้นการหาสมาชิกในระยะสั้น  เร่งทำยอดกันในช่วงแรกๆ  สินค้าที่ต้องรักษายอด หรือ ขึ้นตำแหน่ง  ค้างเติ่งอยู่ในบ้านมากมาย  ไม่สามารถจะปล่อยออกไปได้  เนื่องจากราคาแพง  หรือ ไม่เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างแท้จริง


ดังนั้น  เมื่อท่านคิดจะเลือกทำธุรกิจเครือข่ายสักอย่างหนึ่ง  ของให้พิจารณาให้รอบคอบถึงผลดี  ผลเสีย  เงินที่ต้องลงทุน  ค่ารักษาตำแหน่ง  ค่าโฆษณา  อย่าให้ตัวเองต้องเดือดร้อนได้

จำเอาไว้  
เราทำธุรกิจเพื่อเสริมรายได้ให้เราเอง  ไม่ใช่ทำธุรกิจเพื่อเสริมรายได้ให้คนอื่น...
เลือกธุรกิจเครือข่ายแบบเน้นคุณค่า  ดีกว่าธุรกิจแบบเก็งกำไร  แล้วคุณจะนอนหลับฝันดีตลอดไป

สวัสดีครับ
อดิสัย  คล้ายสุวรรณ
http://anattara.com/?id=728







วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2552

MLM...กับของใช้ประจำวัน

ทางเลือกของธุรกิจเครือข่าย


  • หลายๆธุรกิจ ที่มีการโฆษณาผ่านเน็ต บางครั้งผมก็มีความสงสัยอย่างมาก ว่าทำไมผู้คนจึงหลั่งไหลเพื่อค้นหา ธุรกิจเครือข่าย ชั้นนำต่างๆ เพื่อเพิ่มรายได้กันมากมาย และใช้กลยุทธ์หลากหลาย เพื่อให้ได้มาซึ่งผู้มุ่งหวัง เพื่อร่วมกันสร้างธุรกิจเครือข่ายให้เติบโตมากยิ่งขึ้น

  • หลากหลายเครือข่าย ที่ผมเข้าไปศึกษา มีความแตกต่างทั้งชนิดสินค้า ราคา ค่าตอบแทน การขึ้นตำแหน่ง การประชาสัมพันธ์และการให้ความรู้ด้านธุรกิจที่น่าสนใจ

  • ประเด็นหนึ่งที่ผมให้ความสนใจ ก่อนที่จะทำการเลือกการทำเครือข่าย ก็คือ ผลิตภัณฑ์ และ ผลตอบแทน


  • ผมมีความเห็นว่า ธุรกิจเครือข่าย ควรจะเป็นสินค้าที่สนองความต้องการประจำวันของเราได้ มีการใช้ซ้ำแล้วซ้าอีก เรียกได้ว่าตลอดชีวิตต้องใช้ คุณภาพดี และ ติดตลาดง่าย ราคาไม่สูงเกินกว่าคนธรรมดากินเงินเดือน หรือ หาเช้ากินค่ำ หาซื้อได้

  • อีกทั้งค่าคอมมิชชั่น ได้จากการซื้อสินค้าของสมาชิก และได้รับปันผลหรือส่วนลด ตามปริมาณการซื้อในกลุ่ม ลักษณะเหมือนสหกรณ์ มีโบนัสตามปริมาณการซื้อในกลุ่มที่สูงขึ้น จากการขยายเครือข่าย

  • ถ้าเครือข่ายใด เน้นแต่การหาสมาชิก แต่ไม่เน้นการจูงใจในการจับจ่ายใช้สอย ค่าคอมมิชชั่นก็จะต้องขึ้นอยู่กับ การหาสมาชิกแบบไม่มีวันจบสิ้น เมื่อเป็นอย่างนั้น การขยายเครือข่ายอาจสร้างปัญหา เนื่องจากบางคนอาจจะไม่สามารถหาสมาชิกได้ ทำให้ไม่ได้ค่าคอมมิชชั่น จนสุดท้ายก็ต้องเลิกธุรกิจไป เนื่องจากขาดสภาพคล่อง

  • ดังนั้นการเลือกธุรกิจเครือข่ายสักธุรกิจหนึ่ง ควรนึกถึงตัวเองก่อนว่า เป็นผู้ใช้ผลิตภัณฑ์นั้นคุ้มค่าหรือไม่ มีแผนการตลาดที่พอจะหล่อเลี้ยงธุรกิจเราได้หรือไม่ ธุรกิจมีความมั่นคงและยังคงเจริญเติบโตต่อไปในอนาคตหรือไม่ มีการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนที่ยุติธรรมหรือไม่


  • ข้อสำคัญ เมื่อคุณทำธุรกิจจนใหญ่โต สร้างเครือข่ายจนมีระดับบริหารแทนคุณได้ คุณสามารถจะหยุดทำ แต่ยังได้รับรายได้อยู่หรือไม่

  • ธุรกิจบางตัว ถ้าคุณโตจนถึงระดับสูงสุด ยังต้องทำธุรกิจอยู่ มิฉะนั้นก็จะหมดสมาชิกภาพ เท่ากับว่า คุณต้องทำธุรกิจไปจนตาย หยุดไม่ได้

          แล้วคำว่า "อิสระภาพทางการเงิน และ   เวลา" ทีคุณใฝ่ฝัน...อยู่ที่ไหน?

วันนี้ ไม่แนะนำธุรกิจครับ อยากเล่าให้ฟังเฉยๆ 


ดีกว่า ลุยดุ่ยๆ ไปโดยไม่รู้อะไรเลย...

จากใจ

อดิสัย  คล้ายสุวรรณ

อยู่เงียบๆบ้างก็ดี